เรื่องเล่าประสบการณ์จาก ครูปฏิวัติ เหล่าพราหมณ์ หรืองครูมิ้งค์ โรงเรียนบ้านทอนหญ้าปล้อง จ.สุราษฎร์ธานี ค่ะ
.......................................................................................
วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม 2557
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากการที่ผมได้เห็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นเด็กผู้ชายมักจะไม่ตั้งใจเรียนและไม่สนใจเรียนหนังสือแต่จากการสัมผัสคลุกคลีกับเด็กกลุ่มนี้มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่มีน้ำใจและคอยช่วยเหลือผู้อื่นเสมอมา ผมจึงไม่อยากให้เด็กกลุ่มนี้รู้สึกว่าเค้ากำลังกลายเป็นเด็กมีปัญหาและจะทำให้เป็นภาระของสังคมอีกต่อไป วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2557 ผมเลยนัดเด็กกลุ่มนี้โดยในตอนกลางวันผมมาสอบถามกับเด็กกลุ่มนี้ว่า บ้านใครมีเรือหางยาวบ้างครูอยากจะให้พวกเธอพาครูไปเที่ยวคลองร้อยสายหน่อย ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องราวของเด็กผมก็ต้องขอเกริ่นนำบริบทของชุมชนที่โรงเรียนผมตั้งอยู่นั้นเป็นคลองร้อยสาย ป่าชายเลน โฮมสเตย์ ประมงพื้นบ้าน การหากุ้งแม่น้ำ ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และไม่มีนักเรียนคนใดที่มีเรือจึงให้นักเรียนติดต่อชาวบ้านที่มีอาชีพขับเรือนำเที่ยวคลองร้อยสาย ใจหนึ่งถามว่าเสี่ยงไหมกับการที่เอาชีวิตเด็ก 5 คน มาลงเรือ ตอบเลยว่าเสี่ยงมากแต่ก็ตัดสินใจที่จะทำ ใจผมไม่ได้อยากไปเที่ยวหรอกแต่ผมอยากรู้ว่าเด็กเหล่านี้มีความถนัดด้านใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับชุมชน เพื่อที่จะให้เด็กเป็นแนวทางในการศึกษาต่อหรือไปประกอบอาชีพ
วันเสาร์ 7.50 น. เราขึ้นเรือกันที่ท่าเรือ อบต. คลองน้อย เราได้เตรียม ข้าวเหนียวไก่ทอด น้ำดื่ม ถุงดำ เพื่อเป็นอาหารกลางวันและใส่ขยะ
เราจะแวะทุกจุดที่เราเจอขยะที่ลอยมากับน้ำเพื่อเก็บใส่ถุงดำมีเด็กบางคนถามว่าแวะทำไมครูเสียเวลา ผมก็ได้แต่อมยิ้มและยังคงแวะเก็บต่อไป จนสักพักเด็กๆก็มาช่วยผมเก็บขยะด้วย พอไปเจอป่าจากผมก็เลยให้เรือจอดแวะแล้วผมก็ถามเด็กว่านี่ต้นอะไร เด็กตอบว่าต้นจากแล้ว ไอ้ต้นจากพวกนี้นี้มันให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง เด็กก็ตอบกันมาสารพัด เช่นช่วยกันน้ำซัดตลิ่งพัง ให้ปลาเล็กเป็นที่หลบภัย แล้วต้นจากพวกนี้มันสร้างรายได้ให้พวกเรามั้ย คราวนี้เด็กก็ตอบเลยสิครับของรายได้จากต้นจากตั้งแต่ยอดจากยันลูกเลย
ผมเลยแกล้งถามต่อว่าแล้วรู้มั้ยว่าวิธีการมันทำอย่างไรถึงจะมาเป็นผลผลิตจากจากเค้าก็อธิบายให้ผมฟังได้นะครับแสดงว่าเด็กเหล่านี้เค้ายังเรียนรู้ศึกษาจากชุมชนเค้าได้ดีพอสมควรทีเดียว ต่อมามาเจอต้นไม้ที่มีลักษณะมีรากขึ้นมาบนอากาศ ผมเลยถามว่านั่นต้นอะไรอ่ะ เด็กก็ตอบว่าลำพูบ้างลำแพนบ้าง ทีนี้ละครับทีเกิดปัญหา ผมเลยถามต่อว่าดูยังไงไหนต้นลำพูไหนต้นลำแพน เด็กก็ตอบว่าลำพูใบบางเรียวลำแพนใบหนากลม ตัวผมเองก็มีความรู้ทางด้านต้นไม้นี้น้อย เลยบอกเด็กว่าเอางี้วันจันทร์กลับมาถึงโรงเรียนเรามาหาในเนตกันมั้ยว่าไหนคือลำพูไหนคือลำแพน ต่อจากนั้นเราก็แวะดูการต่อเรือไม้ซึ่งเป็นอาชีพอีกอาชีพที่ยังคงอยู่ในชุมชนแห่งนี้ เราแวะกินข้าวกันที่ป่าชายเลน ที่ ปตท. มาปลูกไว้เพื่อทานอาหารกลางวันกันและคุยกันอย่างสนิทสนมโดยขากลับผมเจอโฮมสเตยเยอะมากและปัญหาของผมก็เกิดขึ้นในหัวอีกแล้วครับว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการกันเยอะๆเพราะปัญหาใหญ่คือ การสื่อสารด้านภาษาระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ให้บริการไม่สามารถเข้าใจในความหมายง่ายๆคือฟังภาษาอังกฤษเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างนักท่องเที่ยวที่มาเลยไม่ค่อยประทับใจ ผมก็เลยถามนักเรียนกลุ่มนี้ว่าทำไมพวกเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
เค้าก็ตอบแบบซื่อๆนะครับบางคนก็ตอบว่าขี้เกียจ บางคนบอกอยากพูดนะครับแต่พอเจอฝรั่งลืมหมดว่าจะพูดอะไร ปัญหาใหญ่ต่อไปของผมคือจะให้เด็กกล้าแสดงออกกล้าพูดกล้าใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ขอผมใช้เวลาในการวิจัยและหาวิธีการที่เหมาะแก่เด็กกลุ่มนี้ก่อนนะครับแล้วผมจะมาเล่าแบ่งปันให้ฟัง
ทริปนี้นอกจากจะได้ความรู้ใหม่ๆจากเด็กๆที่เค้าบอกผมโดยที่เค้าไม่รู้หรอกว่าบางเรื่องบางอย่างผมก็ไม่เคยรู้มาก่อน ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและความเชื่อใจที่เด็กมีให้มากขึ้น

นายปฏิวัติ เหล่าพราหมณ์
โรงเรียนบ้านทอนหญ้าปล้อง จ.สุราษฎร์ธานี
233/174 หมู่ 4 ถ.อำเภอ ซ.8 ต. มะขามเตี้ย
อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร 0938583519